กฎหมายล้มละลาย เป็นกฎหมายทั้งสารบัญญัติและวิธีสบัญญัติแขนงหนึ่ง
ซี่งบัญญัติถึงกระบวนพิจารณาคดีล้มละลาย ตั้งแต่เงื่อนไขการขอให้ลูกหนี้เป็นบุคคลล้มละลาย
วิธีการขอให้ลูกหนี้เป็นบุคคลล้มละลาย การขอให้พิทักษ์ทรัพย์ลูกหนี้
ซึ่งมีทั้งพิทักษ์ทรัพย์ชั่วคราวและพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาด การประนอมหนี้
รวมทั้งการขอฟื้นฟูกิจการของลูกหนี้
ซึ่งศาลที่มีอำนาจในการพิจารณาคดีล้มละลายได้แก่ศาลล้มละลายกลาง
ปัจจุบัน
ประเทศไทยมีกฎหมายล้มละลายที่ใช้อยู่คือพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483
ซึ่งได้มีการแก้ไขปรับปรุงตามสภาวการณ์ทางเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน
ซึ่งในการบัญญัติกฎหมายดังกล่าวนั้น
ไทยได้นำการวางหลักกฎหมายส่วนใหญ่มาจากกฎหมายล้มละลายของประเทศสหรัฐอเมริกา
การบังคับใช้กฎหมายล้มละลาย
จะต่างจากการบังคับใช้กฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง
เนื่องจากกฎหมายล้มละลายเป็นเพียงการบังคับใช้เพื่อให้เจ้าหนี้ได้มีหลักประกันว่าจะได้รับชำระหนี้จากลูกหนี้อย่างแน่นอนและเท่าเทียมกัน
(pari passu) และมีลักษณะที่เปิดช่องให้มีการเจรจา
ประนีประนอมกันมากกว่ากฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งซึ่งมุ่งระงับข้อพิพาททางแพ่งที่มีการโต้แย้งสิทธิกันเพื่อให้เจ้าหนี้ชนะคดีและบังคับเอาจากลูกหนี้เพียงอย่างเดียว
พระราชบัญญัติล้มละลายไม่ได้จำกัดไว้ว่าผู้ที่ล้มละลายจะต้องเป็นบุคคลประเภทใด
ดังนั้น ไม่ว่าบุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคลประเภทใดก็สามารถล้มละลายได้
ต่างจากการฟื้นฟูกิจการที่จะต้องเป็นบริษัทจำกัดหรือบรัษัทมหาชนจำกัดเท่านั้น
โดยกฎหมายกำหนดวิธีการขอให้ลูกหนี้ล้มละลายไว้ 5 วิธี ดังนี้
1. เจ้าหนี้ธรรมดาฟ้องให้ลูกหนี้ล้มละลาย 2.
เจ้าหนี้มีประกันฟ้องให้ลูกหนี้ล้มละลาย
3. เจ้าหนี้ฟ้องขอให้จัดการทรัพย์มรดกของลูกหนี้ที่ตาย
4. ผู้ชำระบัญชีร้องขอให้นิติบุคคลล้มละลาย
5. เจ้าหนี้ผู้เป็นโจทก์หรือเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ขอให้หุ้นส่วนจำพวกไม่จำกัดความรับผิดล้มละลายตามห้างหุ้นส่วนสามัญ
อย่างไรก็ตาม
กฎหมายล้มละลายของไทยไม่อนุญาตให้ลูกหนี้ร้องขอให้ตัวเองล้มละลายได้
แต่ลูกหนี้สามารถร้องขอให้ตัวเองฟื้นฟูกิจการได้
การฟ้องให้ลูกหนี้ล้มละลายโดยเจ้าหนี้
เจ้าหนี้ในคดีล้มละลาย ได้แก่
เจ้าหนี้มีประกัน และเจ้าหนี้ไม่มีประกัน
ซึ่งทั้งสองมีหลักเกณฑ์ในการฟ้องให้ลูกหนี้ล้มละลายและการขอรับชำระหนี้แตกต่างกัน
นิยามของคำว่า "เจ้าหนี้มีประกัน” มีบัญญัติไว้ในมาตรา 6 แห่งประมวลกฎหมายล้มละลาย
ว่าหมายความว่า เจ้าหนี้ผู้มีสิทธิเหนือทรัพย์สินของลูกหนี้ในทางจำนอง จำนำ
หรือสิทธิยึดหน่วงหรือเจ้าหนี้ผู้มีบุริมสิทธิที่บังคับได้ทำนองเดียวกับผู้รับจำนำ
การที่เจ้าหนี้จะฟ้องให้ลูกหนี้ล้มละลายในศาลไทย
ลูกหนี้จะต้องมีภูมิลำเนาหรือประกอบธุรกิจในประเทศไทยหรือเคยมีภูมิลำเนาหรือประกอบธุรกิจในประเทศไทยย้อนหลังไป
1 ปีและจะต้องพิจารณาก่อนว่าเจ้าหนี้ที่มาฟ้องเป็นเจ้าหนี้ธรรมดาหรือเจ้าหนี้มีประกัน
การฟ้องให้ลูกหนี้ล้มละลายโดยเจ้าหนี้ธรรมดา
การที่เจ้าหนี้ธรรมดาจะฟ้องให้ลูกหนี้ล้มละลาย
จะต้องพิสูจน์ให้ได้ว่า
1. ลูกหนี้มีหนี้สินล้นพ้นตัว กล่าวคือ มีหนี้สินมากกว่าทรัพย์สิน
2. เป็นหนี้ไม่น้อยกว่าหนึ่งล้านบาทในกรณีที่ลูกหนี้เป็นบุคคลธรรมดา
หรือสองล้านบาทหากเป็นนิติบุคคล และ
3. หนี้นั้นอาจกำหนดจำนวนได้โดยแน่นอน
ทั้งนี้
แม้ว่าหนี้ดังกล่าวจะยังไม่ถึงกำหนดชำระ
เจ้าหนี้ก็สามารถนำมาฟ้องให้ลูกหนี้ล้มละลายได้
การฟ้องให้ลูกหนี้ล้มละลายโดยเจ้าหนี้มีประกัน
ส่วนเจ้าหนี้มีประกัน เช่น
เจ้าหนี้จำนอง นอกจากจะต้องพิสูจน์ตามหลักเกณฑ์ของเจ้าหนี้ธรรดมาแล้ว
ยังมีเงื่อนไขเพิ่มเติมอีกว่า
เจ้าหนี้นั้นไม่ได้เป็นผู้ต้องห้ามไม่ให้บังคับการชำระหนี้เอาแก่ทรัพย์สินของลูกหนี้เกินกว่าตัวทรัพย์ที่เป็นหลักประกัน
(กล่าวคือ หากเป็นเจ้าหนี้จำนอง
จะต้องมีข้อสัญญาให้บังคับชำระหนี้จากทรัพย์สินอื่นของลูกหนี้ได้
ไม่จำกัดเฉพาะทรัพย์สินที่จำนอง) และต้องบรรยายฟ้องว่า
"ถ้าลูกหนี้ล้มละลายแล้ว จะยอมสละหลักประกันเพื่อประโยชน์แก่เจ้าหนี้ทั้งหลาย"
หรือตีราคาหลักประกันมาในฟ้องซึ่งเมื่อหักกับจำนวนหนี้ของตนแล้ว
เงินยังขาดอยู่อีกไม่น้อยกว่าหนึ่งล้านบาทหรือสองล้านบาท แล้วแต่กรณี
การพิจารณาพิพากษาคดีล้มละลาย
เมื่อศาลรับฟ้องแล้ว
ศาลจะมีหมายเรียกกำหนดวันนัดพิจารณา แต่ลูกหนี้จะยื่นหรือไม่ยื่นคำให้การก็ได้
ในการพิจารณา
ศาลจะต้องพิจารณาให้ครบหลักเกณฑ์เงื่อนไขที่ลูกหนี้จะล้มละลายแล้วจึงมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาด
(ลูกหนี้แพ้คดี) แต่หากศาลพิจารณาแล้วไม่ได้ความจริงตามเงื่อนไขที่จะต้องล้มละลาย
หรือลูกหนี้นำสืบได้ว่าสามารถชำระหนี้ได้ทั้งหมด
หรือมีเหตุอื่นที่ไม่สมควรให้ลูกหนี้ล้มละลาย ศาลจะยกฟ้อง (ลูกหนี้ชนะคดี)
คำสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาดและการขอรับชำระหนี้
เมื่อศาลมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาดแล้ว
ศาลจะแจ้งคำสั่งให้เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ทราบ
และเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์จะโฆษณาคำสั่งดังกล่าวในหนังสือพิมพ์และราชกิจจานุเบกษา
ส่วนลูกหนี้จะถูกจำกัดสิทธิในการจัดการทรัพย์สินหรือกิจการของตน
โดยจะมีเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์เข้ามาทำหน้าที่ดังกล่าวแทน แต่ลูกหนี้ยังสามารถดำเนินการอื่น
ๆ ที่ไม่เกี่ยวกับทรัพย์สินหรือกิจการของตนได้อยู่
เมื่อโฆษณาคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาดแล้ว
เจ้าหนี้จะต้องยื่นคำขอรับชำระหนี้ต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ภายในสองเดือน
แต่หากเป็นเจ้าหนี้ที่อยู่ต่างประเทศก็สามารถขอขยายเวลานั้นเพิ่มได้อีกสองเดือน
(รวมเป็นสี่เดือน)
เพื่อให้เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์รวบรวมทรัพย์สินของลูกหนี้และแบ่งให้เจ้าหนี้อย่างเท่าเทียมกัน
(pari
passu) หากเจ้าหนี้คนใดไม่ยื่นคำขอรับชำระหนี้
เจ้าหนี้ก็หมดสิทธิได้รับชำระหนี้จากลูกหนี้อีก
แต่ไม่หมดสิทธิเรียกร้องจากผู้ค้ำประกันหรือลูกหนี้ร่วมของลูกหนี้ ทั้งนี้
ลูกหนี้ที่ถูกพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาดมีสิทธิขอประนอมหนี้ก่อนล้มละลาย
โดยขอชำระหนี้บางส่วน หรือขอชำระหนี้เป็นอย่างอื่น
ถ้าการประนอมหนี้ก่อนล้มละลายสำเร็จก็ไม่ต้องเป็นบุคคลล้มละลาย
แต่หากประนอมหนี้ไม่สำเร็จ หรือไม่มีการขอประนอมหนี้ ลูกหนี้ก็จะถูกพิพากษาให้ล้มละลายต่อไป
การจบคดีล้มละลาย
กฎหมายล้มละลายของไทย
กำหนดช่องทางการจบคดีล้มละลายไว้สามช่องทาง คือการประนอมหนี้หลังล้มละลาย
การปลดล้มละลาย และการยกเลิกการล้มละลาย
การประนอมหนี้หลังล้มละลาย
เมื่อลูกหนี้ล้มละลายแล้วลูกหนี้สามารถขอประนอมหนี้กับเจ้าหนี้ได้
เมื่อการประนอมหนี้สำเร็จ
เจ้าหนี้ทั้งหลายก็จะผูกพันได้รับชำระหนี้ตามคำขอประนอมหนี้
ยกเว้นเจ้าหนี้ภาษีอากรและเจ้าหนี้ในหนี้ที่เกิดจากการทุจริตฉ้อโกงของลูกหนี้
หากไม่ได้ให้ความยินยอมไว้เป็นหนังสือก็จะไม่ผูกพันด้วยและคงได้รับชำระหนี้เต็มจำนวน
การประนอมหนี้ไม่ทำให้ผู้ค้ำประกันหรือหุ้นส่วน
หรือลูกหนี้ร่วมของลูกหนี้หลุดพ้นจากหนี้ไปด้วย
เจ้าหนี้ยังเรียกร้องจากผู้ค้ำประกัน หุ้นส่วน ลูกหนี้ร่วมของลูกหนี้ได้อยู่จนครบ
การปลดจากล้มละลาย
การปลดจากล้มละลาย อาจเป็นไปโดยคำสั่งศาล
หรือโดยผลของกฎหมาย
โดยหากมีการแบ่งทรัพย์ให้เจ้าหนี้ที่ขอรับชำระหนี้แล้วไม่น้อยกว่าร้อยละ 50 และไม่เป็นบุคคลล้มละลายโดยทุจริต
ผู้ล้มละลายก็อาจขอให้ศาลมีคำสั่งปลดจากล้มละลายได้
หรือหากลูกหนี้ที่เป็นบุคคลธรรมดาล้มละลายมาแล้วครบสามปี ก็จะปลดจากล้มละลายโดยผลของกฎหมาย
เมื่อปลดจากล้มละลายแล้ว
จะมีผลให้บุคคลล้มละลายหลุดพ้นการล้มละลาย
มีอำนาจจัดการทรัพย์สินที่ได้มาหลังจากการปลดล้มละลายและหลุดพ้นจากหนี้ที่ขอรับชำระหนี้ได้ทั้งปวง
ยกเว้นหนี้ภาษีอากรและหนี้ที่เกิดจากการทุจริตฉ้อโกงของลูกหนี้คงยังได้รับชำระหนี้เต็มจำนวน
การปลดจากล้มละลายไม่ทำให้ผู้ค้ำประกันหรือหุ้นส่วน
หรือลูกหนี้ร่วมของลูกหนี้หลุดพ้นจากหนี้ไปด้วย
เจ้าหนี้ยังเรียกร้องจากผู้ค้ำประกัน หุ้นส่วน ลูกหนี้ร่วมของลูกหนี้ได้อยู่จนครบ
การยกเลิกการล้มละลาย
เมื่อมีเหตุอย่างใดอย่างหนึ่งต่อไปนี้
ผู้มีส่วนได้เสียหรือเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์มีคำขอต่อศาลให้ยกเลิกการล้มละลายได้
(1) เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ไม่อาจดำเนินการให้ได้ผลเพื่อประโยชน์แก่เจ้าหนี้ทั้งหลาย
เพราะเจ้าหนี้ผู้เป็นโจทก์ไม่ช่วยหรือยอมเสียค่าธรรมเนียมหรือค่าใช้จ่ายหรือวางเงินประกันตามที่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์เรียกร้อง
และไม่มีเจ้าหนี้อื่นสามารถและเต็มใจกระทำการดังกล่าวแล้ว
ภายในกำหนดเวลาหนึ่งเดือนนับแต่วันที่เจ้าหนี้ผู้เป็นโจทก์ได้ขัดขืนหรือละเลยนั้น
(2) ลูกหนี้ไม่ควรถูกพิพากษาให้ล้มละลาย
(3) หนี้สินของบุคคลล้มละลายได้ชำระเต็มจำนวนแล้ว
ถ้าลูกหนี้ปฏิเสธหนี้สินรายใด
แต่ลูกหนี้ยอมทำสัญญาและให้ประกันต่อศาลว่าจะใช้เงินให้เต็มจำนวนกับค่าธรรมเนียมด้วยก็ดี
หรือถ้าหาตัวเจ้าหนี้ไม่พบ แต่ลูกหนี้ได้นำเงินเต็มจำนวนมาวางต่อศาลก็ดี
ให้ถือว่าหนี้สินรายนั้นได้ชำระเต็มจำนวนแล้ว
(4) เมื่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ได้แบ่งทรัพย์ครั้งที่สุด
หรือไม่มีทรัพย์สินจะแบ่งให้แก่เจ้าหนี้แล้ว ต่อแต่นั้นมาภายในกำหนดเวลาสิบปี
เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ไม่อาจรวบรวมทรัพย์สินของบุคคลล้มละลายได้อีก
และไม่มีเจ้าหนี้มาขอให้เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์จัดการรวบรวมทรัพย์สินของบุคคลล้มละลายโดยการยกเลิกการล้มละลายตาม (1) หรือ (2) นั้นไม่ทำให้ลูกหนี้หลุดพ้นหนี้สิน ส่วนการยกเลิกการล้มละลายตาม (3)
หรือ (4) ทำให้ลูกหนี้หลุดพ้นจากหนี้สินทั้งหมด
รวมถึงหนี้ภาษีอากรและหนี้จากความทุจริตฉ้อโกงด้วย
เราคุยกันบ่อยแต่มีน้อยมากจริงของงานต้องทำ และพยายามที่จะทำมากไปกว่านี้แล้วสำหรับตัวอย่างเช่นพยายามที่จะหาเงินพิเศษเงิน และถ้าคุณกลัวก็อ่านมาวิธีที่ดีก https://topbrokers.com/th/forex-charts และทั้งหมดที่ให้ความกลัวจะหายตัวไปทันที
ตอบลบ